วันที่ 7 กันยายน 2564 - 09:30 น.
หลายท่านที่กำลังอยู่ในวัยทำงานเคยเป็นกันบ้างไหม ที่หลายครั้งมีโอกาสดีๆ ผ่านเข้ามามากมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็น พนักงานดีเด่น การเลื่อนตำแหน่ง การได้รับมอบหมายงานที่สำคัญ การเป็นตัวแทนบริษัทในการพูดหรือทำสิ่งต่างๆ ทริปศึกษาดูงานต่างประเทศ หรือ การขึ้นไปจับฉลากมอบของขวัญปีใหม่ให้คนอื่น ฯลฯ เราก็ไม่เคยถูกเลือกให้ได้รับโอกาสนั้น หรือ หากจะได้จริงคือโอกาสที่คนอื่นเกี่ยงปัดเศษเหลือมา แบบนี้เคยเจอกันไหมครับ ?
เชื่อไหมว่าหลายคนที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้ จะมี 2 ความคิดหลักที่เกิดขึ้น อย่างแรกมีส่วนมากที่ยังรู้สึกแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้เพราะตัวเองก็รู้สึกว่า ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นคนสำคัญขององค์กร จะได้ไม่ต้องถูกจับจ้อง หรือ ไม่ต้องรับภาระหน้าที่สำคัญให้ลำบากมากกว่าเดิม มีความสุขกับชีวิตการเป็นคนที่ไม่สำคัญด้วยความคิดที่ว่า “ฉันแค่มาทำงานทำตามหน้าที่ กลับบ้านจบ รอรับเงินเดือนเดิมๆ ทุกสิ้นเดือน” ซึ่งความคิดนี้ไม่ได้ผิด และก็มีคนมากกว่า 90% ที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่คนประเภทที่สองกลับคิดไปอีกมุมหนึ่งว่า ทำไมฉันต้องถูกมองข้ามเป็น “คนที่ไม่ใช่” ซึ่งการไม่ได้รับโอกาสเหล่านั้นจะส่งผลอย่างมากตามมา ไม่ว่าจะเป็น ความเชื่อมั่นในตัวเองที่น้อยลง ไม่อยากมาทำงาน ไฟในการทำงานมอดลง หรือแย่ไปกว่านั้น คือความรู้สึกลดทอนคุณค่าในตัวเองจนลุกลามเป็นผลกระทบในการดำเนินชีวิตส่วนตัวไปเลยทีเดียว
หากวันนี้หลายท่านที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้วรู้สึกเหมือนกันว่าตัวคุณเองก็กำลังจะเจอปัญหาเหล่านี้และอยากเป็น “คนที่ใช่” สำหรับองค์กร ไม่ว่าจะเพื่อโอกาสที่สำคัญต่างๆ ความก้าวหน้าในอาชีพ หรือแม้กระทั่ง อยากเห็นตัวเองเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม ซึ่งวันนี้ทางผู้เขียนได้รวบรวมนิสัยทั้ง 8 ข้อที่จะช่วยให้คุณได้สังเกตและเรียนรู้ที่จะพัฒนาตัวเองจาก “ คนที่ไม่ใช่ ” ไปสู่ “คนที่ใช่” สำหรับองค์กร
ใครคือ “คนที่ใช่” อย่างถูกต้อง ?
“คนที่ใช่” ( Right Person ) สำหรับองค์กร ไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุด ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่คือคนที่ถูกต้องตามวัฒนธรรมองค์กรนั้นคาดหวัง ทั้งการกระทำและผลลัพธ์ คำถามต่อไปคือ ทำไมคนเหล่านี้มักจะมีการเจริญก้าวหน้าในงานที่มากกว่าคนอื่น หรือ ได้รับโอกาสที่สำคัญอยู่เสมอ คำตอบก็คือองค์กรก็ต้องการลงทุนกับคนที่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น เพื่อให้คนนั้นเป็นแบบอย่างที่ดีต่อคนอื่นองค์กร , เพื่อรักษาคนเหล่านั้นให้อยู่กับองค์กรไปอีกนานในฐานะคนที่สร้างความก้าวหน้า หรือ เหตุผลง่ายๆ เพราะต้องการตอบแทนการทำงานอย่างยอดเยี่ยมของบุคคลนั้น ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นมักมีนิสัย “คนที่ใช่” ทั้ง 8 ข้อ ดังนี้
1. โฟกัสที่ชัดเจน ( Focus )
คุณเชื่อในพลังของการโฟกัสไหมว่ามันมีพลังมากมายมหาศาลสำหรับชีวิตมนุษย์ จากผลการวิจัยมากมายได้มีการพิสูจน์แล้วว่า ระหว่างคนสองคนผลลัพธ์ในชีวิตหรือการทำสิ่งใดสิ่งเดียวกันแต่กลับได้รับสำเร็จต่างกันเพราะอะไร หลายคนอาจจะตอบว่า เพราะ ความฉลาดทางปัญญา ( IQ ) แต่ความจริงจากผลวิจัยมากมายเราพบว่า การโฟกัสต่อเป้าหมายส่งผลต่อการทำงาน เพราะการโฟกัสที่ดีจะทำให้เรารู้ว่าอะไรสำคัญที่สุด หากมีการโฟกัสต่อเป้าหมายที่หนักแน่นมากพอ เราจะมองข้ามอุปสรรคต่างๆ ระหว่างทางและทำทุกอย่างเพื่อที่จะสำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งเทคนิคนี้เราสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานให้ประสบผลได้อย่างดีเยี่ยมและความสำเร็จนี้จะเป็นเครื่องหมายยืนยันตัวตนของคุณมากพอที่จะทำให้คุณเป็น “คนที่ใช่” สำหรับองค์กร2. เป็นคนขั้นกว่า ( ExtraMile)หลายคนบนโลกชอบเปรียบเทียบผลลัพธ์ในชีวิตตัวเองกับคนอื่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นในสภาพแวดล้อมเดียวกัน อาทิ เรียนรุ่นเดียวกัน , ที่ทำงานเดียวกัน , สายงานเดียวกัน เป็นต้น ด้วยความรู้สึกว่า ทำงานเหมือนกัน เรียนจบที่เดียวกัน ทำไมเขาชีวิตดีกว่า ทำไมเขาเจริญก้าวหน้ากว่า โดยให้เหตุผลเดาไปในทางเอาอกเอาใจเจ้านายบ้าง หรือหนักไปกว่านั้นคือ โชคชะตาฟ้าดิน แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ค่อยมีใครสังเกต หรือให้ความสำคัญกับการกระทำของคนที่ประสบความสำเร็จในงานนั้นว่าเขาทำอย่างไรที่ต่างจากคนอื่นจึงได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าคนอื่น เคล็ดลับของคนเหล่านี้ก็คือการเป็นคนขั้นกว่าอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นสายงานการขาย เขามักจะรักษาระดับยอดขายที่สูงกว่ามาตรฐานตลอด , หากเป็นฝ่ายบุคคลสายสรรหา เขามักจะหาผู้สมัครที่มีคุณภาพและปริมาณมากอยู่ตลอด หรือ เป็นเเค่พนักงานที่ทุ่มงานหนักมากกว่าคนอื่น ยอมเสียเวลา 20 นาที ที่มาทำงานก่อนเพื่อเตรียมงาน ยอมเลิกงานช้าเพื่อเคลียร์งานที่ได้รับมอบให้ไม่ทิ้งงานค้างข้ามวัน เป็นต้น3. ความรับผิดชอบ ( accountability )ความผิดรับชอบเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานในการทำงานที่เราทุกคนรู้ว่าควรต้องมี ไม่ว่าจะรับผิดชอบในหน้าที่ต่างๆ ของตำแหน่งที่ตัวเองทำ หรือ งานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนส่วนมากมักยังบกพร่องในความรับผิดชอบพื้นฐานอยู่เลย ดังนั้นเรามาสังเกตกันดีกว่า แต่คนเหล่านี้ส่วนมากจะมีนิสัยที่รับผิดชอบที่สมบูรณ์ในหน้าที่ของตนและพวกเขาเหล่านี้ยังอาสาที่จะช่วยงานในความรับผิดชอบของคนอื่นและส่วนรวมอีกด้วยเพื่อความสำเร็จในภาพรวม ซึ่งนิสัยนี้มักจะส่งผลให้คนเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานในการทำงานอยู่เสมอ รวมไปถึงการได้รับความไว้วางใจในการมอบหมายงานที่สำคัญขององค์กรอีกด้วย4. รักในความท้าทาย (Take it on challenge)หลายครั้งที่ในองค์กรมีโอกาสใหม่ๆ ที่มีความท้าทายมามอบให้ ซึ่งความท้าทายนั้น หมายถึง งานที่มีความยากหากจะทำให้สำเร็จ หรือ งานในเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยทำ ซึ่งโดยธรรมชาติมนุษย์มักหลีกเลี่ยงที่จะทำสิ่งเหล่านี้เพราะหวาดกลัวกับความผิดหวังหากไม่สำเร็จ กลัวจะถูกมองว่าไม่มีความสามารถหากไม่สำเร็จ แต่สำหรับ “คนที่ใช่” พวกเขาจะมองว่างานที่มีความท้าทายนั้นเปรียบเสมือนกับโอกาสที่เข้ามาทำให้พวกเขาได้แสดงความสามารถในการทำงานด้านใหม่ๆให้ผู้ใหญ่ในองค์กรได้เห็นศักยภาพซึ่งไม่ได้มีบ่อยนักที่โอกาสเหล่านี้จะเข้ามา พวกเขามักเลือกรับโอกาสนั้นเสมอจึงส่งผลทำให้การได้รับโอกาสที่สำคัญในความก้าวหน้าในการทำงานเช่นกัน5. นักล่าโอกาส (Chance Hunter)มีคนมากมายฝันที่จะตามหาโอกาสแต่จะมีเพียงไม่ถึงครึ่งที่ลงมือจริงๆ และสุดท้ายจะเหลือแค่เพียง 10% เท่านั้นที่เป็นนักล่าโอกาส คนเหล่านี้จะหิวกระหายหาโอกาส และมักยื่นมือ หรือ เอาตัวเองให้เข้าไปอยู่ท่ามกลางโอกาสอยู่เสมอ เพราะพวกเขาเชื่อว่าทุกโอกาสที่เข้ามาจะเป็นเวทีที่สำคัญที่ทำให้ได้พิสูจน์ฝีมือ เคยมีท่านหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำงานเคยกล่าวกับผู้เขียน “ถ้ามีโอกาสต่อให้รางวัลเป็นลูกอมเม็ดเดียวเขาก็เอา” ซึ่งแตกต่างกับคนทั่วไปที่ไม่กล้าไล่ตามโอกาสทุกครั้ง บางครั้งโอกาสมาถึงมือก็ปฏิเสธ สุดท้ายก็ชอบบ่นว่าทำไมตัวเองไม่เคยมีโอกาสเหมือนคนอื่นบ้าง ดังนั้นเราจึงพบเห็นได้ว่าคนที่มีนิสัย “นักล่าโอกาส” นี้มักจะเป็น “คนที่ใช่” ขององค์กร6. อยู่ในที่แสงส่องเสมอ (Spotlight for yourself )เป็นเรื่องปกติของคนส่วนมากที่จะรู้สึกไม่สบายใจไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม เวลาตกอยู่ท่ามกลางความสนใจ การถูกจับตามองจากผู้อื่นในที่ทำงาน ต่อให้อยู่ในแง่ดีก็จะพยายามทำตัวเล็กลีบ หลบซ่อนไม่ให้เป็นที่สนใจของคนรอบตัว ด้วยวิธีการต่างๆไม่ว่าจะเป็นการเลี่ยงออกความคิดเห็นในที่ประชุม , การไม่อาสาเป็นผู้นำในการรับมอบหมายงานต่างๆ หรือแม้เรื่องเล็กๆ อย่างเช่น การเป็นตัวแทนในการกล่าวอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในงานเลี้ยงองค์กร แต่สำหรับ “คนที่ใช่” เขากลับมองว่าการเอาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางแสงไฟนั้นแหละเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะแสงไฟนี้จะช่วยทำให้ตัวเขาได้มีโอกาสฉายแววของตัวเองให้ผู้ใหญ่ในองค์กรเห็นอยู่เสมอๆ7.พัฒนาตัวเองเสมอ ( Always Improve yourself)“ไม่มีใครแก่เกินเรียน” หรือ “อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว” เป็นประโยคที่คลาสสิกและใช้ได้จริงเสมอ คนส่วนมากมักคิดว่าการเรียนรู้นั้นจบไปแล้วพร้อมกับการจบการศึกษาที่เราร่ำเรียนมา หลายคนมักลืมไปเลยว่าการเรียนรู้นั้นสามารถทำได้ตลอดชีวิต ลองคิดดูว่าครั้งสุดท้ายที่คุณทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาตัวเองคือตอนไหน เช่น หนังสือดีๆ ที่อ่านเล่นล่าคือเรื่องอะไร, เข้าคอร์สอบรมทักษะใหม่ๆ ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ หรือ ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่มีประโยชน์กับใครหรือตอนไหนบ้าง เป็นต้น ซึ่งถ้าคำตอบของคุณคือ 1 ปีที่แล้ว หรือแย่กว่านั้นคือคุณจำไม่ได้แล้วถึงรายละเอียดนั้น ว่าทำอะไร เมื่อไหร่ แต่สำหรับ “คนที่ใช่” นั้นมองว่าการพัฒนาตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พวกเขามักรู้สึกว่ามีอีกหลายเรื่องที่เขายังไม่รู้ และต้องการที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาให้พวกเขาเก่งขึ้น โดยสามารถเอาความรู้เหล่านี้มาประยุกต์ใช้กับงานที่ทำให้ประสิทธิภาพผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หากคุณอยากพิสูจน์เรื่องนิสัยนี้ คุณลองไปถาม “คนที่ใช่” ในองค์กรคุณดูสิครับว่างานอดิเรกยามว่างเขามีอะไรบ้าง จะต้องมีสักหนึ่งกิจกรรมออกมาจากปากเขาที่เกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองไม่แน่คุณอาจจะได้หนังสือเล่มโปรด หรือคอร์สอบรมทักษะดีๆ มาจากพวกเขาเหล่านั้นก็ได้8.การริเริ่มทำสิ่งใหม่อยู่เสมอ ( Always Initiative )คนทั่วไปมักมีพื้นที่ปลอดภัย ( Comfort Zone ) กับสิ่งใหม่ๆที่ตัวเองไม่เคยทำ กลัวการที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ ไม่กล้าออกจากกรอบที่ตัวเองทำอยู่ ทั้งความคิดและการกระทำ อาจจะเป็นเพราะมองว่าเป็นภาระเพิ่ม หรือ รู้สึกว่ามันจะดีแน่หรือเปล่า แต่สำหรับ “คนที่ใช่” นั้นไม่เป็นปัญหาเลยแถมพวกเขายังรู้สึกสนุกด้วยซ้ำกับการได้ทำสิ่งใหม่ๆ ที่คนอื่นยังไม่เคยคิดหรือทำ ซึ่งหลายครั้งในความคิดและการกระทำนั้นที่ได้ริเริ่มนั้นกลายเป็นความสำเร็จขององค์กรได้อย่างไม่น่าเชื่อเป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับความหมายและลักษณะนิสัยทั้ง 8 ข้อ ที่มักพบใน “คนที่ใช่” ขององค์กร ผมเชื่อว่าหลายท่านตอนนี้คงนึกถึงใครสักคนในองค์กรของคุณหรือตอนนี้คงนั่งนับกันแล้วว่าตัวเองมีกี่ข้อแล้ว อย่างไรก็ตามลักษณะนิสัยเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด มันสามารถพัฒนาได้ ขอแค่ไม่ยอมแพ้ พยายามฝึกฝนและให้กำลังใจตัวเอง เพียงเท่านี้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนกับองค์กรใด คุณจะเป็น “คนที่ใช่” และได้รับโอกาสที่สำคัญจากองค์กรอย่างแน่นอนจนกว่าจะพบกันใหม่กับบทความหน้าถ้าชอบฝากติดตามด้วยนะครับ
SOURCE :
กันยายน 7, 2021
By สิบทิศ Ignite Thailand