5 สิ่งที่ช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น เมื่อต้องเลือกมหาวิทยาลัย ในสถานการณ์ Covid-19

Last updated: 23 พ.ย. 2564  | 

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 - 11:50 น.


 

นักเรียนจะเลือกมหาวิทยาลัยอย่างไรหลังยุคโควิดระบาด

การผันเปลี่ยนจากวัยมัธยมมาศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้ที่อยู่ในช่วงวัยการศึกษา และเมื่อเกิดโรคระบาดอย่าง COVID-19 ทำให้ภาพรวมระบบการศึกษาของมหาวิทยาลัยดูค่อนข้างแตกต่างไปจากที่เคยเป็น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้เปรียบเสมือนเกณฑ์บังคับให้นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยต้องรับมือกับผลกระทบอย่างรวดเร็ว


ด้วยเหตุนี้ นักเรียนหลายคนอาจมีการตั้งคำถามมากมายว่าควรอยู่ใกล้ๆ บ้าน พักหนึ่งปี หรือเรียนออนไลน์หรือที่วิทยาลัยชุมชนเล็กๆ ที่พวกเขาสามารถรับความต้องการทั่วไปได้ในราคาที่ถูกลง คนอื่นๆ ต่างรอคอยประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยที่พวกเขาใฝ่ฝันมาตั้งแต่สมัยมัธยม


5 สิ่งที่ช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้นเมื่อต้องเลือกมหาวิทยาลัยในสถานการณ์ Covid-19

1. พิจารณาสิ่งที่สนใจจริงๆ

ขณะที่การเรียนออนไลน์อาจไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนนักศึกษาคาดคิดมาก่อน แต่หลังจากเกิดการระบาดใหญ่สิ่งนี้อาจเป็นทางเลือกที่พวกเขาสนใจมากขึ้น อย่างปัญหาระบบการเรียนทางไกลเมื่อสถานที่เรียนถูกปิดเนื่องจากโควิด ทำให้มหาวิทยาลัยจำนวนมากได้เปิดสอนหลักสูตรออนไลน์ที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากนักเรียนบางคนได้มีเวลาว่างเกือบปีในการพิจารณาเลือกกำหนดทิศทางที่พวกเขาต้องการจริงๆ ซึ่งนักเรียนบางคนใช้เวลาที่หายไปเหล่านี้เป็นอาสาสมัคร ทำงาน หรือแม้แต่เริ่มต้นธุรกิจของตนเองได้


2. มีเวลาทดลองสิ่งที่เลือก

นักเรียนมีเวลาในการค้นหาข้อมูลเว็บไซต์หรือทุนของมหาวิทยาลัย ค้นหาข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้ได้เห็นมุมมองเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยนั้นๆ ได้หลากหลายและเพื่อช่วยให้มองเป้าหมายอย่างตรงประเด็น อาจเริ่มจากการจำลิสต์ข้อดีและข้อเสียสำหรับแต่ละมหาวิทยาลัย แหล่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการจำกัดตัวเลือกให้แคบลง รวมถึงการลองทำข้อสอบ ลองอ่านหนังสือหรือได้เรียนเกี่ยวกับวิชาที่อยากเรียน เพื่อเป็นการกระตุ้นความเครียมพร้อมหรือได้ทดลองก่อนว่าชอบวิชานั้นจริงๆ


3. ดูแนวทางของวิทยาลัยต่อ COVID-19

ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการตัดสินใจคือวิธีที่มหาวิทยาลัยจัดการกับการตอบสนองต่อโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย การป้องกันการแพร่กระจาย วัคซีน หรือมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

หากมหาวิทยาลัยนั้นไม่ได้สร้างความมั่นใจมากพอ ให้พิจารณาว่าตัวเลือกการเรียนรู้ออนไลน์ของวิทยาลัยเป็นอย่างไร การตัดสินใจเรียนที่บ้านและเข้าเรียนออนไลน์อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเรียนในวิทยาลัย หากมหาวิทยาลัยที่อยากเรียนไม่ได้ตอบโจทย์ต่อสถานการณ์นี้มากพอ ลองพิจารณาเกี่ยวกับหลักสูตรปริญญาที่เปิดสอนโดยมหาวิทยาลัยเป็นหลักว่ามีความจำเป็นต่อสาขาวิชาชีพมาก-น้อยแค่ไหน 


4. ประเมินหลักสูตรและสถานที่ของมหาวิทยาลัย

เห็นได้ชัดว่าหลักสูตรหรือนักวิชาการเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการตัดสินใจที่นักเรียนจะเลือกเรียน ดังนั้นการประเมินตามรายวิชาของหลักสูตรนั้นๆ ของแต่ละมหาวิทยาลัยอาจเป็นตัวช่วยที่ง่ายขึ้น 

รวมถึง การพิจารณาสิ่งต่างๆ เช่น ระยะห่างจากบ้าน การเข้าถึงทรัพยากรภายนอก ความปลอดภัยและความมั่นคงของพื้นที่ นอกจากนี้ ให้พิจารณาว่าพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างหนักเพียงใด และจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ดูว่าหน่วยงานท้องถิ่นจัดการกับสถานการณ์อย่างไร


5. เปรียบเทียบความสมดุลทางการเงินและข้อเสนอทุนการศึกษา

หากนักเรียนได้รับข้อเสนอทุนการศึกษา การประเมินและเปรียบเทียบสิ่งเหล่านั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ ประเมินดูค่าใช้จ่ายขั้นสุดท้ายของมหาวิทยาลัยดดยรวมทั้งหมด บางครั้งการเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่ค่าใช้จ่ายสูงสุดก็อาจจะคุ้มค่ากว่า ในบางครั้งการจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยอาจสมเหตุสมผลกว่าหากสาขาวิชาและบรรยากาศเหมาะสม อย่างไรก็ตาม นักเรียนและผู้ปกครองต้องตกลงร่วมกัน โดยไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องแบกรับภาระทางการเงินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องตกงานในช่วงการระบาดใหญ่


อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเกี่ยวกับวิทยาลัยเป็นโอกาสที่ท้าทายในช่วงเวลาที่ดีที่สุด และยิ่งกว่านั้นเมื่อคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนที่เกิดจากการระบาดใหญ่ จะสามารถตัดสินใจที่ตรงกับความต้องการและเป็นน่าจะทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ


SOURCE :

https://www.verywellfamily.com


พฤศจิกายน 23, 2021