Last updated: 9 เม.ย 2563 |
วันที่ 9 เมษายน 2563 - 13:23 น.
1.เลือกห้องน้ำที่ไม่ค่อยมีคนใช้
ถ้าเป็นไปได้ เลือกใช้ห้องน้ำที่ไม่ได้อยู่ในแหล่งคนพลุกพล่านมากนัก เช่น ห้องน้ำในออฟฟิศชั้นที่มีพนักงานน้อย ๆ เป็นต้น
2. อย่าสัมผัสโดยตรง
ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำสาธารณะ ควรสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ในห้องน้ำน้อยที่สุด เช่น เมื่อเปิดประตูเข้าไป อาจจะใช้ทิชชูวางบนลูกบิดแล้วหมุนเข้าไป เป็นต้น
3. ทำความสะอาดก่อนนั่งชักโครก
ก่อนนั่งควรทำความสะอาดฝาชักโครก ด้วยกระดาษทิชชูแบบเปียกชนิดฆ่าเชื้อ หรือพกกระดาษรองนั่งไปปูบนฝาชักโครกก่อนขับถ่าย ระวัง!! อย่าให้แผ่นรองเปียกน้ำเด็ดขาด เพราะเชื้อโรคอาจจะแทรกซึมมากับน้ำได้
4. ใช้เวลาให้น้อยที่สุด
ใช้เวลาในการทำกิจธุระในห้องน้ำให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ชักโครก ควรเลือกดูห้องที่สะอาดที่สุด และหลังขับถ่ายเสร็จ ควรปิดฝาชักโครกก่อนกด เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายในอากาศ
5. ไม่เหยียบโถส้วม
ไม่ควรใส่รองเท้าขึ้นไปนั่งบนฝารองนั่ง หลายคนคิดว่าทำแบบนี้จะทำให้ไม่สัมผัสกับเชื้อโรคบนชักโครก แต่จริง ๆ แล้ว ระหว่างที่ขับถ่ายอาจจะมีการกระเด็นของน้ำในโถ ซึ่งเป็นที่รวมเชื้อโรคได้มากกว่าการนั่งธรรมดาเสียอีก
6. ไม่ตักน้ำที่เปิดไว้มาใช้ล้างทำความสะอาด
ไม่แนะนำให้ตักน้ำที่อยู่ในถังเดิมมาใช้ล้างทำความสะอาด ควรใช้ขันรองจากก๊อกโดยตรง เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในถังน้ำ เพราะบางคนเอามือจุ่มล้างในถัง หากเป็นสายฉีดก็ควรฉีดน้ำให้ไหลทิ้งประมาณ 1 นาที เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ปะปนบริเวณรอบ ๆ สายฉีด
7. ล้างมือทุกครั้งหลังเสร็จธุระ
เพื่อไม่ให้เชื้อโรคติดมากับมือ ควรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสะอาดและสบู่ วิธีการล้างมือให้เริ่มต้นล้างมือโดยฟอกฝ่ามือด้านหน้า ด้านหลัง ง่ามนิ้วมือด้านหน้า ด้านหลัง ฟอกนิ้วมือและข้อนิ้วมือด้านหลัง รวมทั้งฟอกหัวแม่มือ ขัดสิ่งสกปรกบริเวณซอกเล็บ และข้อมือ ล้างสบู่ออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดมือให้แห้งด้วยกระดาษเช็ดมือ หากไม่มีสบู่ ก็ใช้น้ำสะอาดล้างซ้ำหลาย ๆ ครั้งหน่อยนะ เพื่อความปลอดภัย
Source:
Campus Star
https://health.campus-star.com/general/21726.html