Last updated: 21 เม.ย 2563 |
วันที่ 21 เมษายน 2563 - 14:00 น.
สำหรับครูมิก ครูจากมูลนิธิ Teach for Thailand ที่มีประสบการณ์ในการสอนในห้องเรียน กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมาประมาณเกือบ 2 ปีนั้น ห้องเรียนที่มีพลังนั้นสำคัญ และถือว่าเป็นหนึ่งความสำเร็จของคุณครูเลยก็ว่าได้
ห้องเรียนที่มีพลังสำหรับครูมิก คืออะไร คือห้องเรียนที่ทั้งครู และนักเรียนมีส่วนร่วม และมีความสุขในการเรียนรู้ จนเกิดเป็นผลประโยชน์สูงต่อการพัฒนาของห้องเรียน และนักเรียน
จากประสบการณ์ของครูมิกนั้น ห้องเรียนที่มีพลัง ควรจะต้องประกอบไปด้วย
1. ความสัมพันธ์ที่ดี
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณครู และนักเรียน เป็นตัวตั้งต้นในการก่อให้เกิดห้องเรียนที่มีพลังเลยก็ว่าได้
หากครู และนักเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พวกเขาจะโต้แย้งกันน้อยลง จะใช้ความเข้าใจ ความจริงใจในการเข้าหากันมากขึ้น และส่งผลให้เกิดความราบรื่นในการสอนของคุณครู และการเรียนรู้ของนักเรียนมากขึ้น
2. เป็นตัวของตัวเองทั้งครู และนักเรียน
ห้องเรียนไหนก็ตาม ที่ทั้งครู และนักเรียนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ รู้สึกสบายๆ ไม่ตึงเครียด ห้องเรียนนั้นจะเป็นห้องเรียนที่มีหนึ่งสภาพแวดล้อมสำคัญที่ส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นอย่างมากเลยทีเดียวหากครูเป็นตัวของตัวเอง ครูจะดึงศักยภาพที่ตัวเองมีออกมาได้มากที่สุด และนักเรียนเขาจะชัดเจน และเข้าใจว่าครูคนนี้มีลักษณะบุคลิกเป็นอย่างไร พวกเขาควรจะเข้าหา พูดคุยกับครูคนนี้อย่างไร ในทางตรงกันข้าม หากนักเรียนเป็นตัวของตัวเองได้ นักเรียนจะมีความพร้อมในการเรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง และมีความสุขในการเรียนรู้ด้วยเช่นกัน
3. มีทั้งการชื่นชม และการติเตียน
ในห้องเรียนที่มีจำนวนนักเรียนอยู่มากจะทำให้มีพฤติกรรม และเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายแน่นอนในคาบสอนคาบหนึ่ง ซึ่งเป็นได้ทั้งพฤติกรรมที่เหมาะสม หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และทั้งสองพฤติกรรมดังกล่าว ต้องได้รับการตอบสนองที่ถูกต้องเหมาะสมจากคุณครู
หากนักเรียนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้น คุณครูควรจะต้องตอบสนองด้วยวิธีการ และในเวลาที่เหมาะสมอยู่เสมอ เพื่อให้นักเรียนรับรู้ และปรับปรุงพัฒนาตัวเองอย่างเหมาะสม
และในทางกลับกัน หากนักเรียนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมเกิดขึ้น คุณครูต้องไม่เงียบ และปล่อยให้ผ่านเลยไป แต่จะต้องชื่นชมให้นักเรียนรู้ว่านักเรียนทำพฤติกรรมอะไร พฤติกรรมนั้นดีอย่างไร และกระตุ้นให้นักเรียนเกิดพฤติกรรมดังกล่าวไปอย่างต่อเนื่อง
4. ครูฟังเสียงของนักเรียน
ในห้องเรียนที่มีทั้งคุณครู และนักเรียน หนึ่งวิธีที่จะทำให้ห้องเรียนส่งเสริมต่อการเรียนรู้ของนักเรียนที่สุด คุณครูจะต้องฟังเสียงของนักเรียนด้วยเช่นกัน ฟังว่านักเรียนชื่นชอบในบรรยากาศของห้องเรียนไหม ฟังว่านักเรียนมีข้อสงสัยอะไรรึเปล่า ฟังว่านักเรียนเรียนรู้ได้ถึงจุดประสงค์ที่คุณครูตั้งไว้หรือไม่ และเรียนรู้ได้ถึงขั้นไหนแล้ว และอื่นๆ การฟังนี้จะทำให้คุณครูได้พัฒนาห้องเรียนในคาบถัดๆ ไปได้อย่างตรงเป้าประสงค์ที่นักเรียนต้องการ
เชื่อว่าครูทุกคนล้วนมีรูปแบบการเรียนการสอน และมีห้องเรียนที่มีพลังในแบบของตัวเอง อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณครูแต่ละท่านคิดว่าอะไรคือองค์ประกอบสำคัญของห้องเรียนที่มีพลังกันบ้าง
Source :
14 ก.ย. 2564